วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
10 นิสัยที่ทำให้คุณมีเสน่ห์
วันนี้เราจะเอา 10 นิสัย ที่ผู้ชายยอมรับเเล้วว่า คนนี้ใช่เลยยยย
1. เป็นคนรู้จักดูเเล เอาใจใส่ตัวเอง ไม่ปล่อยให้ตัวองดูมอมเเมม ต้องดูเเล้วสะอาดตา
2. พูดจาอ่อนหวาน ต้องยอมรับว่าใครๆ ก็ชอบคนพูดจาอ่อนหวานกันทั้งนั้น คุยด้วยเเล้วเหมือน ได้อยู่บนปุยนุ่น
3. เป็นคนเปิดเผย คือ มีอะไรที่เราชอบ ก็บอก ไม่ชอบก็บอก อย่างงี้จะทำให้อีกคนไม่รู้สึกอึดอัดนั่นเอง
4. เอาใจเก่ง ไม่ใช่การไปพะเน้าพะนอ เขาอยู่เรื่อย เเต่เป็นการเเสดงความรักเเละเอาใจใส่ มันช่างน่ารักอะไรอย่างงี้น้าาาา
5. เซ็กซี่บ้าง อะไรบ้าง 5555 เเต่งตัวให้ยั่วใขเค้าคนนั้นบ้าง ให้รู้ว่าเราก็มีดีนะย๊ะ เเต่ไม่ใช่โฉ่งฉ่างเกินไป เอาเเค่พองานค่ะ
6. เป็นเเม่บ้านที่ดี บางครั้งห้อง บ้าน หรือโต๊ะทำงาน ของเค้ารกเหลือเกิน เต่ด้วยนิสัยผู้ชายเเล้วย่อมไม่ยอมเก็บกวาดเป็นเเน่ ฉะนั้น เมื่อคุณมีโอกาสก็จัดเก็บให้เค้าบ้าง เค้าจะได้ปลื้มใจ
7. เเกล้งให้หึง ข้อนี้ใช้ได้ผลมานานเเสนนานเเล้ว 555 เเกล้งเค้าบ้างเค้าจะได้รู้สึกว่าเราไม่น่าเบื่อ ไม่ใช่ของตายนะย๊ะ คุณก็ต้องคอยดูเเลชั้นบ้างเหมือนกันนะ อะไรประมาณนั้น 555
8. เข้ากับเพื่อนของเค้าได้ดี เวลาไปเที่ยวกัน อย่าลืมทักทายพูดคุย กับเพื่อนเค้า ร่วมวงสนทนากับเพื่อนๆ ของเค้าบ้าง เค้าจะได้ ชอบเเละสนุกกับการออกไปเที่ยวกับคุณ
9. อย่าลืมเข้ากับพ่อเเม่ของเค้าให้ได้ล่ะ ข้อนี้สำคัญ เพราะใครๆ ก็รักพ่อเเม่ตัวเองกันทั้งนั้นเเหละค่ะ
10. สุดท้ายคือ คุณต้องมีมารยาท ไม่รื้อค้น ของส่วนตัวของเค้า โทรศัพย์ ไดอารี่ หรือรวมไปถึงเรื่องทั่วไปในสังคม พราะนั่นจะทำให้เค้าไม่รู้สึกอาย เมื่อควงคุณออกงาน หรือไปเที่ยวก็ตาม
หน้าเรียวสวยไม่ต้องศัลลล
ลูกกลิ้งหน้าเรียวววว
อุปกรณ์ช่วยกระชับ ใบหน้าให้เเก้มย้วยๆ คางหย่อนๆ ของสาวๆ กลับมาเต่งตึง เเลดูใบหน่าเล็กลงถนัดตา โดยไม่ต้องไปเสียเงินเสียทอง ให้หมอ มาเหลาหน้า ฉีดโบท็อก เเละอื่นๆอีกมากมาย โดยส่วนตัวเเล้วเราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่หันมาใช้ลูกกลิ้งหน้าเรียว เหมือนกัน รับลองว่าได้ผล 100 เปอร์เซ็นเลย เพราะจากที่ใช้มาประมาณ3 อาทิตย์หน้าเราจากที่เป็นคนเเก้มเยอะมาก คางสองชั้นด้วย เเต่ตอนนี้เเก้มเราหายไป 2 ใน 4 เลยล่ะ 555 รู้สึกดีมากๆเลย เวลายิ้ม ก็ไม่ต้องกลัว ว่าคนเห็นเเล้วจะนึกว่าอมซาลาเปาไว้อยู่รึป่าว 55 เเนะนำอีกหน่อย ใช้ลูกกลิ้งหน้าเรียว กลิ้งหน้าเราไปเรื่อยๆ กดให้เจ็บนิดหน่อย ทำทุกๆวัน วันละ 20 นาทีเป็นอย่างต่ำ เเรกๆจะเจ็บกาม มากๆเลย เเต่ซักพักจะหายเจ็บไปเอง
* อยากสวยก็ต้องทนหน่อยนะคะ 555
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
หน้าเรียวสวยไม่ต้องศัลลล
วันนี้อยากจะมาเเนะนำ สินค้าที่เป็นที่นิยมกันอย่างเเพร่หลาย ทั้งในไทยเเละต่างประเทศ
นั่นก็คือ ลูกกลิ้งหน้าเรียว!!!
วิธีเร่งผมยาว
สาวๆหลายๆคน การมีผมยาวสลวย ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะชายหนุ่มทั้งหลายได้สารภาพออกมาเเล้วว่า สำหรับสาวผมยาวเเล้ว ย่อมดูดีมีชัยไปกว่าครึ่งเเล้ว ดังนั้น วันนี้ เราเลยนำวิธีต่างๆ ที่มาเร่งผมสั้นให้สาวๆได้มีผมที่ยาวสลวยสวยเก๋กันค่ะ
1. ใช้ยาคุม ... อาจจะสงสัยว่าเเล้วมันเกี่ยวอะไรกันกับที่ทำให้ผมยาว เต่ในยาคุมนั้นมีฮอร์โมนที่สามารถเร่งการเจริญเติบโตของรากผมได้ วิธีใช้คือ บดยาคุม 3 เม็ดผสมกับครีมนวดผม หมักไว้วันละ 20 นาที
2. นอนห้อยหัว เพื่อให้เลือไหลเวียนดีเเละทำให้ รากผมเจริญเติบโตได้ดี เเต่อย่าห้อยนานเกินไปนะคะ อาจตายได้ 555 เเค่วันละ 2 นาทีก็พอเเล้วล่ะค่ะ
3. นวดหนังศรีษะ ใช้มือนวดหนังศรีษะของเรา บ่อยๆ เพื่อกระตุ้นรูขุมขน โดยนวดระหว่างที่สระผมนั่นเเหละค่ะ
4. ใช้หวีซี่ห่างๆ เพื่อลดการเสียดสีอันทำให้เกิดผมเสีย เเละการขาดหลุดร่วง จะทำให้ผมยาวช้าขึ้นค่ะ
5. ต่อผม วิธีนี้สำหรับสาวที่ต้องการผมยาวเเบบเร่งด่วน เค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ยาวเเล้วค่ะ 555
นี่ก็เป็นวิธีที่สำรวจ มาเเล้วนะคะที่สามารถทำให้ผมยาวได้จริง ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ
วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
6 วิธีลดหน้าท้อง
1.ใช้ฟิตเนสบอลเป็นตัวช่วย
การนั่งบนลูกบอลฟิตเนสลูกโต ๆ แม้จะลำบากเอาการกว่าจะทรงตัวบนลูกบอลได้ แต่ลำบากอย่างนี้แหละค่ะ จะช่วยให้เราเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณท้องไปโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น เวลาที่คุณสาว ๆ นั่งดูทีวี ก็ลองเปลี่ยนเก้าอี้มาเป็นลูกบอลฟิตเนสดูดีกว่า รับรองว่าหน้าท้องหายไปแน่นอน ถ้าจะให้เห็นผลยิ่งขึ้น ลองหลับตาด้วยขณะทรงตัวบนลูกบอล เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้นในการรักษาความสมดุลนั่นเอง
2.เล่นโยคะ
การเล่นโยคะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายสมดุล มีสุขภาพดีแล้ว บางท่าของโยคะยังสามารถลดหน้าท้องได้ด้วย โดยขั้นแรกให้นอนหงาย มือประสานกันใต้ศีรษะ วางเท้าชิด จากนั้หายใจเข้า หายใจออก ยกลำตัว ยกขาซ้ายขึ้น 45 องศา ขาตรง ไม่งอเข่า เกร็งหน้าท้อง ไม่กลั้นหายใจ ค้างไว้ แล้วหายใจเข้า-ออก 5–10 วินาทีก่อนวางขาลง จากนั้นให้ทำสลับกับขาขวาเช่นเดียวกัน ทำซ้ำไปมา 2-3 ครั้ง แล้วให้หายใจเข้า หายใจออก ยกทั้งสองขาและลำตัวค้างไว้ หายใจเข้าออก 10 วินาที แล้วลดลง
3.มาเต้นกันดีกว่า
ทราบไหมคะว่า การเต้นหนึ่งชั่วโมงจะสามารถเผาผลาญได้ถึง 400 แคลอรี่ แถมยังจะช่วยให้คุณสาว ๆ มีเชฟเป็นทรวดเป็นทรงมากขึ้นด้วย หรือใครอยากลดหน้าท้องจริง ๆ ก็หัดเต้น Belly Dance ไปเลยค่ะ
4.แขม่วหน้าท้อง
แขม่วท้องเป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ตลอดเวลา แถมยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานตลอดเวลาด้วย ลองแขม่วท้องให้ติดเป็นนิสัยดูสิ รับรองว่ากล้ามเนื้อจะกระชับขึ้น แถมยังช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้นด้วยล่ะ
5.ซิทอัพ+ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
หลายคนเข้าใจว่า การซิทอัพจะช่วยให้หน้าท้องแบนเรียบ แต่จริง ๆ แล้ว การซิทอัพแค่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องเท่านั้นเองค่ะ แต่ไขมันยังคงอยู่ เพราะฉะนั้น ควรซิทอัพผสมกับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่งจ้อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป
6.นอนให้เร็วขึ้น
รู้ไหมคะว่า การเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำไม่ให้เกิน 4 ทุ่ม จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงานออกมา เป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างง่ายดาย และถ้าจะให้ดี ควรนอนหลับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันด้วยล่ะ
การนั่งบนลูกบอลฟิตเนสลูกโต ๆ แม้จะลำบากเอาการกว่าจะทรงตัวบนลูกบอลได้ แต่ลำบากอย่างนี้แหละค่ะ จะช่วยให้เราเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณท้องไปโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น เวลาที่คุณสาว ๆ นั่งดูทีวี ก็ลองเปลี่ยนเก้าอี้มาเป็นลูกบอลฟิตเนสดูดีกว่า รับรองว่าหน้าท้องหายไปแน่นอน ถ้าจะให้เห็นผลยิ่งขึ้น ลองหลับตาด้วยขณะทรงตัวบนลูกบอล เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนักขึ้นในการรักษาความสมดุลนั่นเอง
2.เล่นโยคะ
การเล่นโยคะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายสมดุล มีสุขภาพดีแล้ว บางท่าของโยคะยังสามารถลดหน้าท้องได้ด้วย โดยขั้นแรกให้นอนหงาย มือประสานกันใต้ศีรษะ วางเท้าชิด จากนั้หายใจเข้า หายใจออก ยกลำตัว ยกขาซ้ายขึ้น 45 องศา ขาตรง ไม่งอเข่า เกร็งหน้าท้อง ไม่กลั้นหายใจ ค้างไว้ แล้วหายใจเข้า-ออก 5–10 วินาทีก่อนวางขาลง จากนั้นให้ทำสลับกับขาขวาเช่นเดียวกัน ทำซ้ำไปมา 2-3 ครั้ง แล้วให้หายใจเข้า หายใจออก ยกทั้งสองขาและลำตัวค้างไว้ หายใจเข้าออก 10 วินาที แล้วลดลง
3.มาเต้นกันดีกว่า
ทราบไหมคะว่า การเต้นหนึ่งชั่วโมงจะสามารถเผาผลาญได้ถึง 400 แคลอรี่ แถมยังจะช่วยให้คุณสาว ๆ มีเชฟเป็นทรวดเป็นทรงมากขึ้นด้วย หรือใครอยากลดหน้าท้องจริง ๆ ก็หัดเต้น Belly Dance ไปเลยค่ะ
4.แขม่วหน้าท้อง
แขม่วท้องเป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ตลอดเวลา แถมยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานตลอดเวลาด้วย ลองแขม่วท้องให้ติดเป็นนิสัยดูสิ รับรองว่ากล้ามเนื้อจะกระชับขึ้น แถมยังช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้นด้วยล่ะ
5.ซิทอัพ+ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
หลายคนเข้าใจว่า การซิทอัพจะช่วยให้หน้าท้องแบนเรียบ แต่จริง ๆ แล้ว การซิทอัพแค่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องเท่านั้นเองค่ะ แต่ไขมันยังคงอยู่ เพราะฉะนั้น ควรซิทอัพผสมกับการออกกำลังแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่งจ้อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป
6.นอนให้เร็วขึ้น
รู้ไหมคะว่า การเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำไม่ให้เกิน 4 ทุ่ม จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญพลังงานออกมา เป็นวิธีที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างง่ายดาย และถ้าจะให้ดี ควรนอนหลับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันด้วยล่ะ
5 ท่าบอกลาแขนล่ำ
เสียดายเสื้อสายเดี่ยวใส่ไม่ได้อยู่ตั้งนาน เพราะเขินอายกับท่อนแขนล่ำ แถมอาจพ่วงหย่อนยานเข้าไปด้วย ลองบริหารกล้ามเนื้อแขน ช่วงไหล่ และหลังด้วย จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายช่วงบน พร้อมกระชับสัดส่วนให้ฟิตสวยด้วยตัวคุณเอง
บริหารต้นแขนด้านใน นั่งตรงขอบเก้าอี้ ถือเวทหรือขวดน้ำที่มีขนาดพอดีมือ แล้วโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ใช้มือซ้ายยันเข่าเพื่อพยุงตัว ส่วนข้อศอกขวายึดไว้กับเข่าขวาด้านใน ยกเวทหรือขวดน้ำเข้าหาไหล่ ทำสัก 20 ครั้ง สลับกันทั้งสองข้าง
บริหารต้นแขนด้านนอก ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อย มือถือลูกบอลยกขึ้นเหนือศีรษะ งอข้อศอกและส่งลูกบอลไปด้านหลังจนจรดต้นคอ กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำอย่างน้อย 30 ครั้ง
บริหารไหล่ มือซ้ายและขวาถือขวดน้ำข้างละใบไว้ที่ระดับสะโพกค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ แล้วเหวี่ยงไปข้างหลัง วนเป็นรูปวงกลม ทำประมาณ 10 รอบ แล้วเปลี่ยนสลับข้าง
บริหารไหล่และหลัง ยืนแยกเท้าและงอเข่าเล็กน้อย ในมือทั้งสองถือพ็อคเก็ตบุคข้างละ 2-3 เล่ม พักไว้ตรงหน้าขา ค่อย ๆ ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงถึงระดับไหล่ ชูแขนเหยียดตรง เกร็งกล้ามเนื้อพร้อมลดแขนลงช้า ๆ ทำซ้ำประมาณ 20 ครั้ง
บริหารอกและแขน ตั้งเก้าอี้วางชิดผนัง มือเกาะที่ขอบเก้าอี้ทรงตัวเหยียดแขนตรง ยืนบนปลายเท้า จากนั้นงอศอกดึงตัวเข้าหาเก้าอี้ให้ใกล้ที่สุด แล้วยืดแขนออก ทำซ้ำสัก 30 ครั้ง
8 ท่าพิชิตขาเรียว
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 1
ต้องใช้เวท น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เป็นตัวช่วยด้วยค่ะ ให้นอนลงกับพื้นแล้วผูกเวทติดไว้ที่ขา แล้วยกขาให้สูงขึ้นจากพื้น 45 องศา อย่างช้า ๆ นับ 1-5 แล้ววางลง จนเมื่อร่างกายเริ่มชินกับน้ำหนักของเวท ให้ยกขาขึ้นลงด้วยความเร็วมากขึ้น
โดยท่าลดต้นขานี้ควรทำทีละข้าง ครั้งละ 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง หมั่นทำบ่อย ๆ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ เมื่อทำจนชำนาญแล้ว ก็อาจจะยกขาให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 2
ท่านี้จะเป็นการบริหารต้นขาด้านหน้าได้อย่างดีเลยล่ะ โดยให้คุณสาว ๆ นอนหงาย แล้วสอดมือทั้ง 2 ข้างรองก้นไว้ งอเข่าซ้ายขึ้นมาเข้าหาอก แล้วยก-เหยียดขาขวาขึ้นข้างบนอย่างช้า ๆ เมื่อเหยียดขาขวาจนสุดแล้ว ให้ค้างอยู่ในท่านั้นสักครู่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกตึงที่ต้นขาด้านหน้า และด้านหลังของลำขา
จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้น โดยเปลี่ยนเป็นงอเข่าขวาเข้าหาอก แล้วเหยียดขาซ้ายยกขึ้นสูงแทน ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10-15 ครั้ง ต่อวัน และควรทำเป็นประจำ 3-5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 3
ท่านี้เป็นวิธีลดต้นขาด้านในค่ะ เริ่มจากการนอนราบลงบนพื้น ไขว้ข้อเท้าไว้ด้วยกัน จากนั้นพยายามงอเข่าให้เข้ามาชิดตัวให้มากที่สุด โดยที่ข้อเท้ายังไขว้กันอยู่ จากนั้นก็ยืดขาออก คลายเท้าทั้งสองออกจากกัน แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำประมาณ 24 ครั้งต่อวัน จะช่วยให้ต้นขาด้านในดูเล็กลงได้ทีเดียวล่ะ
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 4
ท่านี้อิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ โดยให้คุณสาว ๆ อยู่ในท่ายืน ยกขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า จากนั้นค่อย ๆ ลากขามากข้างหน้า ไขว้ไปที่ขาอีกข้างแล้วค้างไว้นานประมาณ 20 วินาที จากนั้นสลับมาทำอีกข้าง จะช่วยให้ต้นขาเล็กลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมท่านี้ยังทำได้ง่าย ๆ แม้คุณจะยืนทำอะไรอยู่ก็ตาม
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 5
เป็นวิธีง่าย ๆ จากประเทศญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ เพียงแค่เวลาที่คุณนั่ง ไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ นั่งดูทีวี ฯลฯ ให้นำสมุดโทรศัพท์เล่มหนา หรือหนังสืออะไรก็ได้ที่หนา ๆ ไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร มาหนีบไว้ที่ระหว่างขาให้แน่น ๆ จนเมื่อย ทนไม่ไหวก็ให้คลายสักครู่ แล้วทำต่อค่ะ ความเมื่อยที่คุณรู้สึกได้ จะช่วยลดต้นขาได้ดีเลยล่ะ
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 6
ท่าบริหารนี้นำเอาหลาย ๆ ท่ามารวมกันค่ะ โดยเริ่มจากการนอนหงายกับพื้น ยกขาทั้งสองขึ้นเหยียดตรง ค้างไว้ 2 นาที จากนั้นแยกขาออกจากกัน แล้วหุบขาชิด ทำกลับไปมาอีก 20 ครั้ง จากนั้นปั่นจักรยานกลางอากาศต่อ พยายามทำให้เร็ว และให้มากครั้งที่สุด ก่อนจะเปลี่ยนท่ามานั่งกับพื้น เหยียดขาให้ตรง แล้วตีขาไปมากับพื้นอีก 100 ครั้ง
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 7
นั่งคุกเข่าลงกับพื้น โน้มตัวมาข้างหน้า วางมือทั้ง 2 ข้างบนพื้นแขนเหยียดตรง ให้ไหล่ เข่า มืออยู่ในแนวเดียวกัน (เป็นท่าหมอบ 4 ขา) ยืดหลังตรง จากนั้นค่อย ๆ ยกขาขึ้นให้หัวเข่าตั้งเป็น 90 องศากับลำตัว วางลงแล้วทำใหม่ ข้างละ 10-12 ครั้ง 3 เซต จะช่วยกระชับต้นขาด้านนอกได้อย่างดี
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 8
ขอเอาใจคนรักการว่ายน้ำบ้าง เพราะวิธีลดต้นขานี้สามารถทำได้ในน้ำค่ะ ง่าย ๆ เลยก็คือ ให้ใช้แขนทั้งสองข้างจับขอบสระ คว่ำหน้า ยืดขาเหยียดให้ลอยตัวพร้อมกับตีขาไปจนเมื่อย แล้วพักสักครู่ก่อนจะตีขาต่อ ทำประมาณ 10-15 ครั้งค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งท่า ก็คือ ให้ยืนในน้ำ หันข้างให้ขอบสระ มือหนึ่งจับขอบสระไว้ อีกมือหนึ่งเท้าเอวไว้ เหยียดขาให้ตรง แล้วเหวี่ยงขาข้างเดียวกับที่เท้าเอวไปข้างหน้า แล้วเหวี่ยงกลับ ทำทั้งหมด 20 ครั้ง แล้วสลับมาทำอีกข้างหนึ่งอีก 20 ครั้ง ทำซ้ำจนครบ 10-15 ครั้ง จะช่วยบริหารต้นขาได้เยี่ยมเลยล่ะ
ได้วิธีดี ๆ แล้ว ก็ต้องหมั่นบริหารเป็นประจำด้วยนะคะ แล้วคุณจะมีเรียวขาที่เรียวสวยสมใจเลยทีเดียว
ต้องใช้เวท น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เป็นตัวช่วยด้วยค่ะ ให้นอนลงกับพื้นแล้วผูกเวทติดไว้ที่ขา แล้วยกขาให้สูงขึ้นจากพื้น 45 องศา อย่างช้า ๆ นับ 1-5 แล้ววางลง จนเมื่อร่างกายเริ่มชินกับน้ำหนักของเวท ให้ยกขาขึ้นลงด้วยความเร็วมากขึ้น
โดยท่าลดต้นขานี้ควรทำทีละข้าง ครั้งละ 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง หมั่นทำบ่อย ๆ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ เมื่อทำจนชำนาญแล้ว ก็อาจจะยกขาให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 2
ท่านี้จะเป็นการบริหารต้นขาด้านหน้าได้อย่างดีเลยล่ะ โดยให้คุณสาว ๆ นอนหงาย แล้วสอดมือทั้ง 2 ข้างรองก้นไว้ งอเข่าซ้ายขึ้นมาเข้าหาอก แล้วยก-เหยียดขาขวาขึ้นข้างบนอย่างช้า ๆ เมื่อเหยียดขาขวาจนสุดแล้ว ให้ค้างอยู่ในท่านั้นสักครู่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกตึงที่ต้นขาด้านหน้า และด้านหลังของลำขา
จากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้น โดยเปลี่ยนเป็นงอเข่าขวาเข้าหาอก แล้วเหยียดขาซ้ายยกขึ้นสูงแทน ทำ 3 เซ็ต เซ็ตละ 10-15 ครั้ง ต่อวัน และควรทำเป็นประจำ 3-5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 3
ท่านี้เป็นวิธีลดต้นขาด้านในค่ะ เริ่มจากการนอนราบลงบนพื้น ไขว้ข้อเท้าไว้ด้วยกัน จากนั้นพยายามงอเข่าให้เข้ามาชิดตัวให้มากที่สุด โดยที่ข้อเท้ายังไขว้กันอยู่ จากนั้นก็ยืดขาออก คลายเท้าทั้งสองออกจากกัน แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำประมาณ 24 ครั้งต่อวัน จะช่วยให้ต้นขาด้านในดูเล็กลงได้ทีเดียวล่ะ
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 4
ท่านี้อิมพอร์ตมาจากประเทศญี่ปุ่นค่ะ โดยให้คุณสาว ๆ อยู่ในท่ายืน ยกขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า จากนั้นค่อย ๆ ลากขามากข้างหน้า ไขว้ไปที่ขาอีกข้างแล้วค้างไว้นานประมาณ 20 วินาที จากนั้นสลับมาทำอีกข้าง จะช่วยให้ต้นขาเล็กลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมท่านี้ยังทำได้ง่าย ๆ แม้คุณจะยืนทำอะไรอยู่ก็ตาม
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 5
เป็นวิธีง่าย ๆ จากประเทศญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ เพียงแค่เวลาที่คุณนั่ง ไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ นั่งดูทีวี ฯลฯ ให้นำสมุดโทรศัพท์เล่มหนา หรือหนังสืออะไรก็ได้ที่หนา ๆ ไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร มาหนีบไว้ที่ระหว่างขาให้แน่น ๆ จนเมื่อย ทนไม่ไหวก็ให้คลายสักครู่ แล้วทำต่อค่ะ ความเมื่อยที่คุณรู้สึกได้ จะช่วยลดต้นขาได้ดีเลยล่ะ
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 6
ท่าบริหารนี้นำเอาหลาย ๆ ท่ามารวมกันค่ะ โดยเริ่มจากการนอนหงายกับพื้น ยกขาทั้งสองขึ้นเหยียดตรง ค้างไว้ 2 นาที จากนั้นแยกขาออกจากกัน แล้วหุบขาชิด ทำกลับไปมาอีก 20 ครั้ง จากนั้นปั่นจักรยานกลางอากาศต่อ พยายามทำให้เร็ว และให้มากครั้งที่สุด ก่อนจะเปลี่ยนท่ามานั่งกับพื้น เหยียดขาให้ตรง แล้วตีขาไปมากับพื้นอีก 100 ครั้ง
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 7
นั่งคุกเข่าลงกับพื้น โน้มตัวมาข้างหน้า วางมือทั้ง 2 ข้างบนพื้นแขนเหยียดตรง ให้ไหล่ เข่า มืออยู่ในแนวเดียวกัน (เป็นท่าหมอบ 4 ขา) ยืดหลังตรง จากนั้นค่อย ๆ ยกขาขึ้นให้หัวเข่าตั้งเป็น 90 องศากับลำตัว วางลงแล้วทำใหม่ ข้างละ 10-12 ครั้ง 3 เซต จะช่วยกระชับต้นขาด้านนอกได้อย่างดี
วิธีลดต้นขา ท่าที่ 8
ขอเอาใจคนรักการว่ายน้ำบ้าง เพราะวิธีลดต้นขานี้สามารถทำได้ในน้ำค่ะ ง่าย ๆ เลยก็คือ ให้ใช้แขนทั้งสองข้างจับขอบสระ คว่ำหน้า ยืดขาเหยียดให้ลอยตัวพร้อมกับตีขาไปจนเมื่อย แล้วพักสักครู่ก่อนจะตีขาต่อ ทำประมาณ 10-15 ครั้งค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งท่า ก็คือ ให้ยืนในน้ำ หันข้างให้ขอบสระ มือหนึ่งจับขอบสระไว้ อีกมือหนึ่งเท้าเอวไว้ เหยียดขาให้ตรง แล้วเหวี่ยงขาข้างเดียวกับที่เท้าเอวไปข้างหน้า แล้วเหวี่ยงกลับ ทำทั้งหมด 20 ครั้ง แล้วสลับมาทำอีกข้างหนึ่งอีก 20 ครั้ง ทำซ้ำจนครบ 10-15 ครั้ง จะช่วยบริหารต้นขาได้เยี่ยมเลยล่ะ
ได้วิธีดี ๆ แล้ว ก็ต้องหมั่นบริหารเป็นประจำด้วยนะคะ แล้วคุณจะมีเรียวขาที่เรียวสวยสมใจเลยทีเดียว
สารพัดสูตรพอกหน้า
สารพัดสูตรพอกหน้า
วิธีทําให้ผิวขาว : สูตรมะละกอนมสด นำมะละกอมาบดผสมกับนมสด คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพอกบนใบหน้าหรือผิวกายทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกวิธีทําให้ผิวขาว : โยเกิร์ตผสมมะนาว มะนาวเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีความเป็นกรดสูงมาก จนอาจทำให้แสบผิวได้ ดังนั้นการนำมะนาวมาผสมโยเกิร์ตแล้วนำไปทาผิวทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จะช่วยลดการระคายเคืองผิว และมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ใสกว่าเดิม
วิธีทําให้ผิวขาว : น้ำมันมะพร้าวเพื่อผิวเนียนนุ่ม เป็นสูตรโบราณที่ใช้ได้ผลมาก น้ำมันมะพร้าวจะช่วยในเรื่องการทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น แม้เพียงครั้งแรกที่ได้นำน้ำมันมะพร้าวมาทาผิว รับรองได้เลยว่า สาว ๆ จะรู้สึกถึงความเนียนนุ่มได้ทันทีเลยล่ะ
วิธีทําให้ผิวขาว : น้ำผึ้งและโยเกิร์ต นำส่วนผสมดังกล่าวพอกลงบนใบหน้าหรือผิวกายประมาณ 30 นาทีก่อนล้างออก ช่วยให้ผิวขาวและนุ่มขึ้นได้ สามารถทำได้วันเว้นวันค่ะ
วิธีทําให้ผิวขาว : กล้วยหอมและนมสด นำมาบดผสมกัน จากนั้นนำไปพอกผิวในบริเวณที่ต้องการ จะทำให้ผิวขาวเนียนสวยได้ สามารถทำได้วันเว้นวันเช่นกัน
10 วิธีลดความอ้วน
1.รับประทานผัก-ผลไม้มาก ๆ
อย่าละเลยการรับประทานผัก-ผลไม้เด็ดขาดค่ะ เพราะผักผลไม้มีทั้งเส้นใย และสารอาหารต่าง ๆ ที่ดีกับคุณสาว ๆ แถมทานมากเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนด้วย2. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทอด ๆ และติดมัน
อาหารทอด ๆ มาพร้อมกับน้ำมันที่จะมาทำให้คุณอวบอั๋นขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับอาหารเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น กุนเชียง หมูสามชั้นทอดกรอบ หนังไก่ กากหมู ถ้าไม่อยากอ้วน อดใจไว้ค่ะ3.ออกกำลังกายสำคัญสุด ๆ
แน่นอนว่า หนึ่งในวิธีที่คนทั่วโลกแนะนำก็คือ การออกกำลังกายนี่แหละ เพราะมันจะช่วยรักษาน้ำหนักให้คงที่ในระยะยาวได้ แถมยังจะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีให้กลายเป็นพลังงานได้คราวละมาก ๆ ด้วย หากคุณสาว ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลองหาเวลาเดินวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน นอกจากคุณจะควบคุมน้ำหนักได้ดีแล้ว ยังจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอีกด้วยล่ะ4.ระวัง!!! สลัดน้ำข้น
คุณสาว ๆ หลายคนอาจสงสัย ทำไมทานสลัดอยู่ทุกวัน ๆ ยังอ้วนอีก เพราะลืมไปว่า ตัวเองทานผักสลัดกับสลัดน้ำข้นนั่นไงล่ะ รู้ไหมว่า สลัดน้ำข้นนั้นอุดมไปด้วยครีมนม และไขมันนม ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมาก ๆ แม้จะทานกับผักก็เถอะ ร้อยทั้งร้อย "อ้วน" อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ5. ใช้ภาชนะให้เล็กลง
นอกจากใช้ภาชนะสีเข้ม ๆ แล้ว การเปลี่ยนจานให้เล็กลง ก็เป็นวิธีทางจิตวิทยา ที่ทำให้เรารู้สึกว่า อาหารมีปริมาณมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็ว ไม่อยากหาอะไรทานอีก6.จำไว้ อย่าอด
ใช่ว่า การไดเอทคือการอดอาหาร เพราะยิ่งคุณอดอาหารเท่าไหร่ จะมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังทำให้คุณหิวมากขึ้นมากขึ้น จนทำให้คุณสามารถทานได้มากกว่าปกติในมื้อต่อไป 7.อย่าทานอะไรหลังมื้อเย็นอีก
ไม่ดีแน่ หากคุณทานขนม หรืออาหารอะไรหลังจากคุณทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีคือ ควรจะให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการย่อยอาหาร แล้วไปเริ่มทำงานใหม่ในมื้อเช้าของวันรุ่งขึ้นจะดีกว่า8.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า หากคุณพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ อาจจะมีผลกระทบต่อฮอร์โมนเลปติน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ดังนั้น อาจทำให้คุณยับยั้งชั่งใจในการรับประทานไม่อยู่ และอ้วนขึ้นได้ นอกจากนี้ หากคุณนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ก็สามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปได้เช่นกัน 9.เผ็ดหน่อย อร่อยดี
การศึกษาพบว่า "พริก" ช่วยเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย และช่วยในการเผาผลาญ จึงมีประโยชน์เรื่องการควบคุมน้ำหนัก นอกจากนี้ การกินพริก จะไม่ทำให้รู้สึกอยากกินหวานอีก รับรองว่า กินพริกแล้ว ลืมเรื่องความอ้วนไปได้เลย10.หัวเราะ ช่วยลดความอ้วน
งานวิจัยระบุว่า การหัวเราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ขณะเราหัวเราะ จะหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปได้มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อท้องได้ออกกำลังไปในตัวมาสร้างความสวยงามให้เเก่โลกใบนี้ด้วยตัวของเรากัน ^^
บล็อกของเราน้ันจะมาพูดคุย เล่าประสบการณ์
และแเนะนำ คุณผู้หญิงคุณผู้ชาย หลายๆท่าน
เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าด้วยความสวยความงาย ศัลยกรรม
การดูแลผิวพรรณ เคล็ดลับต่างนาๆ
ที่เราจะเอามาแบ่งปันให้เเก่ท่านได้ อ่านเเละนำไปลองใช้
เพื่อนความสวยงาม แลดูอ่อนวัย กันนั่นเอง
ใครว่าต้นไม้ ใบหญ้า รำธาร
ช่วยเสริมโลกให้สวยงามเเละหน้าอยู่ อันที่จริงเเล้ว
ผู้หญิงต่างหาก ที่ทำให้โลกของพวกคุณน่าอยู่ อิอิอิ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)